บทนำ
เนื้องอกมดลูกเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธุ์ แต่ในช่วงใกล้วัยทอง ปัญหานี้ยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจกระตุ้นให้เกิดเนื้องอก หรือทำให้อาการที่มีอยู่ชัดเจนขึ้น โดยทั่วไปแล้ว 80% ของผู้หญิงจะพบเนื้องอกมดลูกอย่างน้อยครั้งหนึ่งในช่วงชีวิตของพวกเธอ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในช่วงวัยเจริญพันธุ์ไปจนถึงช่วงก่อนวัยทอง
ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการรักษาเนื้องอกมดลูกในผู้หญิงที่ใกล้วัยทอง โดยครอบคลุมสาเหตุ อาการที่พบได้บ่อย และวิธีการรักษาทั้งแบบใช้ยา การผ่าตัด และเทคโนโลยีสมัยใหม่อื่น ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจแนวทางการจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างถูกต้อง
เนื้องอกมดลูกคืออะไร?
เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งสามารถเกิดได้หลายตำแหน่ง เช่น บริเวณโพรงมดลูก ผนังมดลูก หรือด้านนอกของมดลูก เนื้องอกชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นเนื้องอกธรรมดา (ไม่ใช่มะเร็ง) และพบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เช่น ในวัยเจริญพันธุ์
ทำไมเนื้องอกมดลูกถึงพบมากในช่วงใกล้วัยทอง?
ช่วงใกล้วัยทอง ร่างกายของผู้หญิงจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เนื้องอกมดลูกเติบโต นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น
- พันธุกรรม: หากมีประวัติครอบครัวที่เป็นเนื้องอกมดลูก ก็มีโอกาสเกิดได้มากขึ้น
- น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: ภาวะน้ำหนักเกินทำให้ร่างกายผลิตเอสโตรเจนมากขึ้น
- การไม่มีบุตร: ผู้หญิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูงขึ้น
- ปัจจัยฮอร์โมน: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ไม่สมดุล
อาการของเนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทอง
อาการที่พบได้บ่อยของเนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทอง สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
1. อาการเกี่ยวกับประจำเดือน
- ประจำเดือนมามากผิดปกติ
- ประจำเดือนมาบ่อยหรือมาระหว่างรอบ
- ปวดท้องประจำเดือนรุนแรงจากการที่เนื้องอกกดเบียดหรือขัดขวางการไหลเวียนของเลือด
2. อาการจากการกดทับอวัยวะข้างเคียง
- ปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะไม่สุด เพราะเนื้องอกกดกระเพาะปัสสาวะ
- ท้องผูกจากการกดลำไส้ใหญ่
- รู้สึกแน่นท้อง กินอาหารนิดเดียวก็อิ่ม
ในบางกรณี เนื้องอกอาจทำให้ท้องป่องขึ้นจนรู้สึกไม่สบายตัว หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้
แนวทางการรักษาเนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทอง
การรักษาเนื้องอกมดลูกในผู้หญิงที่ใกล้วัยทองจะเน้นไปที่การบรรเทาอาการ และการลดขนาดของเนื้องอก เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มักไม่มีความต้องการมีบุตรแล้ว การรักษาสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. การรักษาด้วยยา
การใช้ยาเป็นแนวทางแรกที่แพทย์มักแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงมาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมอาการ เช่น การมีประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือปวดท้องประจำเดือน
- ยาฮอร์โมน: ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพื่อลดการเจริญเติบโตของเนื้องอกและบรรเทาอาการ
- ยาลดปวด: สำหรับบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน
ข้อดีของการรักษาด้วยยาคือใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ จนเข้าสู่วัยทอง ซึ่งในช่วงนั้นอาการต่าง ๆ มักจะดีขึ้นเองเนื่องจากระดับฮอร์โมนลดลง
2. การผ่าตัด
หากการรักษาด้วยยาไม่ให้ผลดีพอ หรือเนื้องอกมีขนาดใหญ่จนกดเบียดอวัยวะข้างเคียง การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น โดยมีวิธีการผ่าตัดหลัก ๆ ดังนี้
- การผ่าตัดเฉพาะเนื้องอก (Myomectomy): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บมดลูกไว้ วิธีนี้จะตัดเฉพาะเนื้องอกออกเท่านั้น
- การผ่าตัดมดลูก (Hysterectomy): สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเก็บมดลูกไว้แล้ว การผ่าตัดนี้จะช่วยรักษาได้อย่างถาวร แต่มีความเสี่ยง เช่น ภาวะช่องคลอดหย่อนในอนาคต
3. เทคโนโลยีการรักษาใหม่ ๆ
นอกจากการรักษาแบบดั้งเดิมแล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการรักษาเนื้องอกมดลูก เช่น
- การอุดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้องอก (Uterine Artery Embolization, UAE): ฉีดสารเข้าไปอุดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้องอก ทำให้เนื้องอกฝ่อตัวลง
- การใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency Ablation): ใช้พลังงานคลื่นวิทยุทำลายเนื้องอก
- การใช้พลังงานความร้อน (HIFU - High-Intensity Focused Ultrasound): ทำลายเนื้องอกโดยไม่ต้องผ่าตัด
การเลือกวิธีรักษา
การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น
- ขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก
- ความรุนแรงของอาการ
- ความต้องการของผู้ป่วยในการเก็บมดลูกไว้
- สภาวะสุขภาพโดยรวม
ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
บทสรุป
เนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทองเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้หญิง อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้มีทางเลือกในการรักษาหลายวิธี ทั้งการใช้ยา การผ่าตัด และการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ
สิ่งสำคัญคือการหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น ประจำเดือนมามากผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย หรืออาการแน่นท้อง และรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการดูแลตนเองอย่างใส่ใจ
****************************
ความเชี่ยวชาญอื่นๆของ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์
ให้คำปรึกษา และรักษา
- ฉีดสีประเมินท่อนำไข่(HSG)
- ตรวจน้ำเชื้อ(Semen analysis)
- เจาะฮอร์โมนสตรี เช่น AMH, FSH, LH, E2, P4
- ประเมินเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ด้วย MRI
- ปรับพฤติกรรม และให้ยาในคนไข้ PCOS ที่มีภาวะอ้วน
- แก้หมัน(เปิดหน้าท้อง,ผ่านกล้อง)
- ฉีดเชื้อ(IUI)
- เด็กหลอดแก้ว(IVF, IVF-ICSI)(ให้คำปรึกษา)
- ผ่าตัดเนื้องอกในโพรงมดลูกผ่านกล้อง
- ผ่าตัดเนืองอกกล้ามเนื้อมดลูกผ่ากล้อง
- ผ่าตัดเลาะพังผืดผ่านกล้อง
- ผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่ด้วย CO2 laser
- ให้คำปรึกษาการรักษาเนื้องอกมดลูกด้วย HIFU, Microwave, RF