การรักษาเนื้องอกมดลูกช่วงใกล้วัยทอง

 07 Jul 2022  เปิดอ่าน 11 ครั้ง


บทนำ

เนื้องอกมดลูกเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธุ์ แต่ในช่วงใกล้วัยทอง ปัญหานี้ยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจกระตุ้นให้เกิดเนื้องอก หรือทำให้อาการที่มีอยู่ชัดเจนขึ้น โดยทั่วไปแล้ว 80% ของผู้หญิงจะพบเนื้องอกมดลูกอย่างน้อยครั้งหนึ่งในช่วงชีวิตของพวกเธอ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในช่วงวัยเจริญพันธุ์ไปจนถึงช่วงก่อนวัยทอง

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการรักษาเนื้องอกมดลูกในผู้หญิงที่ใกล้วัยทอง โดยครอบคลุมสาเหตุ อาการที่พบได้บ่อย และวิธีการรักษาทั้งแบบใช้ยา การผ่าตัด และเทคโนโลยีสมัยใหม่อื่น ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจแนวทางการจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างถูกต้อง


เนื้องอกมดลูกคืออะไร?

เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งสามารถเกิดได้หลายตำแหน่ง เช่น บริเวณโพรงมดลูก ผนังมดลูก หรือด้านนอกของมดลูก เนื้องอกชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นเนื้องอกธรรมดา (ไม่ใช่มะเร็ง) และพบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เช่น ในวัยเจริญพันธุ์


ทำไมเนื้องอกมดลูกถึงพบมากในช่วงใกล้วัยทอง?

ช่วงใกล้วัยทอง ร่างกายของผู้หญิงจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เนื้องอกมดลูกเติบโต นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น

  1. พันธุกรรม: หากมีประวัติครอบครัวที่เป็นเนื้องอกมดลูก ก็มีโอกาสเกิดได้มากขึ้น
  2. น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: ภาวะน้ำหนักเกินทำให้ร่างกายผลิตเอสโตรเจนมากขึ้น
  3. การไม่มีบุตร: ผู้หญิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูงขึ้น
  4. ปัจจัยฮอร์โมน: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ไม่สมดุล


อาการของเนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทอง

อาการที่พบได้บ่อยของเนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทอง สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ

1. อาการเกี่ยวกับประจำเดือน

  • ประจำเดือนมามากผิดปกติ
  • ประจำเดือนมาบ่อยหรือมาระหว่างรอบ
  • ปวดท้องประจำเดือนรุนแรงจากการที่เนื้องอกกดเบียดหรือขัดขวางการไหลเวียนของเลือด

2. อาการจากการกดทับอวัยวะข้างเคียง

  • ปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะไม่สุด เพราะเนื้องอกกดกระเพาะปัสสาวะ
  • ท้องผูกจากการกดลำไส้ใหญ่
  • รู้สึกแน่นท้อง กินอาหารนิดเดียวก็อิ่ม

ในบางกรณี เนื้องอกอาจทำให้ท้องป่องขึ้นจนรู้สึกไม่สบายตัว หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้


แนวทางการรักษาเนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทอง

การรักษาเนื้องอกมดลูกในผู้หญิงที่ใกล้วัยทองจะเน้นไปที่การบรรเทาอาการ และการลดขนาดของเนื้องอก เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มักไม่มีความต้องการมีบุตรแล้ว การรักษาสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. การรักษาด้วยยา

การใช้ยาเป็นแนวทางแรกที่แพทย์มักแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงมาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมอาการ เช่น การมีประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือปวดท้องประจำเดือน

  • ยาฮอร์โมน: ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพื่อลดการเจริญเติบโตของเนื้องอกและบรรเทาอาการ
  • ยาลดปวด: สำหรับบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

ข้อดีของการรักษาด้วยยาคือใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ จนเข้าสู่วัยทอง ซึ่งในช่วงนั้นอาการต่าง ๆ มักจะดีขึ้นเองเนื่องจากระดับฮอร์โมนลดลง

2. การผ่าตัด

หากการรักษาด้วยยาไม่ให้ผลดีพอ หรือเนื้องอกมีขนาดใหญ่จนกดเบียดอวัยวะข้างเคียง การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น โดยมีวิธีการผ่าตัดหลัก ๆ ดังนี้

  • การผ่าตัดเฉพาะเนื้องอก (Myomectomy): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บมดลูกไว้ วิธีนี้จะตัดเฉพาะเนื้องอกออกเท่านั้น
  • การผ่าตัดมดลูก (Hysterectomy): สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเก็บมดลูกไว้แล้ว การผ่าตัดนี้จะช่วยรักษาได้อย่างถาวร แต่มีความเสี่ยง เช่น ภาวะช่องคลอดหย่อนในอนาคต

3. เทคโนโลยีการรักษาใหม่ ๆ

นอกจากการรักษาแบบดั้งเดิมแล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการรักษาเนื้องอกมดลูก เช่น

  • การอุดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้องอก (Uterine Artery Embolization, UAE): ฉีดสารเข้าไปอุดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้องอก ทำให้เนื้องอกฝ่อตัวลง
  • การใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency Ablation): ใช้พลังงานคลื่นวิทยุทำลายเนื้องอก
  • การใช้พลังงานความร้อน (HIFU - High-Intensity Focused Ultrasound): ทำลายเนื้องอกโดยไม่ต้องผ่าตัด

การเลือกวิธีรักษา

การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น

  • ขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก
  • ความรุนแรงของอาการ
  • ความต้องการของผู้ป่วยในการเก็บมดลูกไว้
  • สภาวะสุขภาพโดยรวม

ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด


บทสรุป

เนื้องอกมดลูกในช่วงใกล้วัยทองเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้หญิง อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้มีทางเลือกในการรักษาหลายวิธี ทั้งการใช้ยา การผ่าตัด และการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ

สิ่งสำคัญคือการหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น ประจำเดือนมามากผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย หรืออาการแน่นท้อง และรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการดูแลตนเองอย่างใส่ใจ

****************************

ความเชี่ยวชาญอื่นๆของ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์

ให้คำปรึกษา และรักษา


  • ฉีดสีประเมินท่อนำไข่(HSG)
  • ตรวจน้ำเชื้อ(Semen analysis)
  • เจาะฮอร์โมนสตรี เช่น AMH, FSH, LH, E2, P4
  • ประเมินเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ด้วย MRI
  • ปรับพฤติกรรม และให้ยาในคนไข้ PCOS ที่มีภาวะอ้วน
  • แก้หมัน(เปิดหน้าท้อง,ผ่านกล้อง)
  • ฉีดเชื้อ(IUI) 
  • เด็กหลอดแก้ว(IVF, IVF-ICSI)(ให้คำปรึกษา)
  • ผ่าตัดเนื้องอกในโพรงมดลูกผ่านกล้อง 
  • ผ่าตัดเนืองอกกล้ามเนื้อมดลูกผ่ากล้อง
  • ผ่าตัดเลาะพังผืดผ่านกล้อง
  • ผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่ด้วย CO2 laser
  • ให้คำปรึกษาการรักษาเนื้องอกมดลูกด้วย HIFU, Microwave, RF


รีวิว

ติดต่อเรา

มุสิกา คลินิก

ปราจีนบุรี

เบอร์โทร

02-114-7710 (ศูนย์สุขภาพสตรี)
037-212-987 (กุมารเวชกรรม)
037-216-727 (ผิวพรรณและความงาม)

ที่อยู่

62/8-9 ถนนปราจันตคาม ต.หน้าเมือง อ. เมือง ปราจีนบุรี

เวลาทำการ

ศูนย์สุขภาพสตรี
17:00 - 20:00 อาทิตย์-ศุกร์
09:00 - 12:00 เสาร์

กุมารเวชกรรม
17:00 - 20:00 จันทร์-ศุกร์

ผิวพรรณและความงาม
12:00 - 20:00 จันทร์-ศุกร์
10:00 - 20:00 เสาร์-อาทิตย์