รักษามีบุตรยากด้วย IUI

IUI เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีปัญหาการมีบุตรยาก

เนื่องจากอัตราความสำเร็จที่สูง

วิธีการที่ไม่ซับซ้อน

ค่าใช้จ่ายไม่สูง

และความปลอดภัย

ทำให้เป็นหนึ่งในวิธีแรก ๆ ที่แพทย์แนะนำให้พิจารณาเมื่อเผชิญกับปัญหานี้


IUI คืออะไร?

IUI (Intra-Uterine Insemination) เป็นวิธีการช่วยการเจริญพันธุ์ที่ใช้ในการรักษาภาวะมีบุตรยาก

โดยการฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงในช่วงที่ไข่ตก

วิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิได้มากขึ้น

เนื่องจากน้ำเชื้อจะถูกนำไปใกล้กับไข่มากที่สุด

ทำให้ลดระยะทางที่อสุจิต้องว่ายไป


การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกหรือผสมเทียม (IUI) มีโอกาสสำเร็จมากเท่าไหน

- การฉีดเชื้อโดยทั่วไปแพทย์จะใช้ยากระตุ้นไข่แบบรับประทาน

ซึ่งมักจะทำให้ไข่โตประมาณ 2-3 ใบ (รอบธรรมชาติจะโตแค่ใบเดียว)

และทำการฉีดยาเร่งให้ไข่ตกในเวลาที่ไข่โตได้ประมาณ 17-18 มม.

จากนั้นไข่จะตกในอีก 24-36 ชม.ต่อมา

ซึ่งก็เป็นเวลาที่จะทำการฉีดเชื้ออสุจิที่คัดแล้วเข้าไปในโพรงมดลูก

หลังจากนั้นอสุจิกับไข่จะทำการปฏิสนธิกันในท่อนำไข่

และตัวอ่อนจะเดินทางมาฝังที่โพรงมดลูกเพื่อตั้งครรภ์ต่อไป


**โอกาสสำเร็จจากการฉีดเชื้อโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-15%

ทั้งนี้ขึ้นกับคุณภาพของเชื้ออสุจิ, จำนวนไข่ที่โตในรอบนั้น และความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก


คู่สมรสบางคู่อาจต้องใช้พยายามถึง 3 ครั้งก่อนที่จะประสบความสำเร็จ

คู่สมรสบางคู่ประสบความสำเร็จภายในครั้งแรก

ขณะที่บางคู่อาจไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการรักษามาจากอายุและสาเหตุของการมีบุตรยาก


ข้อดีของการทำ IUI

  • เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์: อัตราความสำเร็จของการทำ IUI อยู่ระหว่าง 10-15% ต่อรอบ ซึ่งสูงกว่าการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติประมาณ 2 เท่า
  • ไม่ซับซ้อนและปลอดภัย: ขั้นตอนการทำ IUI ค่อนข้างง่ายและไม่ต้องใช้การผ่าตัด ทำให้เป็นวิธีที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง
  • ค่าใช้จ่ายไม่สูง: การทำ IUI มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ทำให้เป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
  • เหมาะสำหรับหลายกรณี: IUI เหมาะสำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาเกี่ยวกับเชื้ออสุจิหรือท่อนำไข่อุดตัน แต่ยังคงมีโอกาสประสบความสำเร็จได้


การเตรียมตัวก่อนทำ IUI

  • สุขภาพทั่วไป: คู่สามีภรรยาควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยการงดเหล้าและบุหรี่ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • การติดตามรอบเดือน: ฝ่ายหญิงควรจดบันทึกวันมีประจำเดือนเพื่อช่วยในการประเมินและวางแผนการรักษา
  • ฝ่ายหญิง: ควรรับประทานกรดโฟลิก (Folic Acid) 5 มิลลิกรัมต่อวันอย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ เพื่อเตรียมความพร้อม
  • ฝ่ายชาย: ควรมีจำนวนอสุจิที่แข็งแรงมากกว่า 1 ล้านตัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์


คำแนะนำหลังทำ IUI

  • สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักและกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 2-3 วันแรกหลังการทำ
  • หากมีอาการปวดท้องน้อยหรือเลือดออกเล็กน้อย สามารถใช้ยาแก้ปวดได้ แต่ถ้ามีไข้หรืออาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที


IUI สามารถทำได้หลายครั้งต่อเดือนหรือไม่

การทำ IUI (Intra-Uterine Insemination) สามารถทำได้หลายครั้งต่อเดือน

แต่โดยทั่วไปแล้วควรทำในช่วงที่มีการตกไข่ ซึ่งหมายความว่าอาจจะมีการทำ IUI 1-2 ครั้งในรอบเดือนหนึ่ง

โดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายต่อการกระตุ้นไข่และคำแนะนำของแพทย์


ข้อควรพิจารณา:


  • จำนวนครั้ง: การทำ IUI ติดต่อกันหลายรอบสามารถช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จ โดยมักแนะนำให้ทำประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ไม่ควรเกิน 6 ครั้งในแต่ละรอบการรักษา เนื่องจากอัตราความสำเร็จจะเริ่มคงที่หลังจากนั้น
  • อายุของผู้หญิง: หากผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี ควรพิจารณาทำ IUI ไม่เกิน 4 ครั้ง เพราะโอกาสในการตั้งครรภ์จะลดลงตามอายุ


ข้อจำกัดในการทำ IUI

  • ผู้ที่มีปัญหาหมันในฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายจะไม่สามารถทำ IUI ได้ เนื่องจากต้องพิจารณาวิธีอื่น เช่น IVF หรือ ICSI
  • อายุของฝ่ายหญิงและสภาพสุขภาพโดยรวมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการทำ IUI


ข้อห้ามในการทำ IUI

  1. ปัญหาท่อนำไข่: หากฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่ที่มีความผิดปกติหรือมีการตันทั้งสองข้าง การทำ IUI จะไม่แนะนำ เพราะจะไม่สามารถนำไข่ไปสู่ท่อนำไข่ได้
  2. ปัญหาน้ำเชื้อ: ฝ่ายชายที่มีปริมาณอสุจิตัววิ่งน้อยกว่า 10 ล้านตัวไม่ควรทำ IUI เนื่องจากอาจมีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำ
  3. โรคเกี่ยวกับมดลูก: ผู้หญิงที่มีพยาธิสภาพในมดลูก เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แบบรุนแรง หรือมีการผ่าตัดมดลูกมาก่อน ควรหลีกเลี่ยง
  4. อายุมาก: ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปีควรระมัดระวัง เนื่องจากโอกาสในการตั้งครรภ์จะต่ำลง และแนะนำไม่ให้ทำ IUI เกิน 4-6 ครั้ง


การเข้าใจข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้คู่สามีภรรยาสามารถเตรียมตัวและตัดสินใจได้ดีขึ้นเกี่ยวกับการทำ IUI และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย.


****************************

ความเชี่ยวชาญอื่นๆของ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์

ให้คำปรึกษา และรักษา


  • ฉีดสีประเมินท่อนำไข่(HSG)
  • ตรวจน้ำเชื้อ(Semen analysis)
  • เจาะฮอร์โมนสตรี เช่น AMH, FSH, LH, E2, P4
  • ประเมินเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ด้วย MRI
  • ปรับพฤติกรรม และให้ยาในคนไข้ PCOS ที่มีภาวะอ้วน
  • แก้หมัน(เปิดหน้าท้อง,ผ่านกล้อง)
  • ฉีดเชื้อ(IUI) 
  • เด็กหลอดแก้ว(IVF, IVF-ICSI)(ให้คำปรึกษา)
  • ผ่าตัดเนื้องอกในโพรงมดลูกผ่านกล้อง 
  • ผ่าตัดเนืองอกกล้ามเนื้อมดลูกผ่ากล้อง
  • ผ่าตัดเลาะพังผืดผ่านกล้อง
  • ผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่ด้วย CO2 laser
  • ให้คำปรึกษาการรักษาเนื้องอกมดลูกด้วย HIIFU, Microwave, RF

รีวิว

ติดต่อเรา

มุสิกา คลินิก

ปราจีนบุรี

เบอร์โทร

02-114-7710 (ศูนย์สุขภาพสตรี)
037-212-987 (กุมารเวชกรรม)
037-216-727 (ผิวพรรณและความงาม)

ที่อยู่

62/8-9 ถนนปราจันตคาม ต.หน้าเมือง อ. เมือง ปราจีนบุรี

เวลาทำการ

ศูนย์สุขภาพสตรี
17:00 - 20:00 อาทิตย์-ศุกร์
09:00 - 12:00 เสาร์

กุมารเวชกรรม
17:00 - 20:00 จันทร์-ศุกร์

ผิวพรรณและความงาม
12:00 - 20:00 จันทร์-ศุกร์
10:00 - 20:00 เสาร์-อาทิตย์