1. บทนำ
เนื้องอกที่มดลูก (Uterine Fibroids) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ และบางครั้งจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โดยการผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่พบมากที่สุดคือการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง (Laparotomy) และการผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Surgery) ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้จะมาเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองวิธี เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงข้อบ่งชี้ ความเหมาะสม และผลลัพธ์ของแต่ละประเภทการผ่าตัดได้ชัดเจนขึ้น
2. การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง
การผ่าตัดเปิดหน้าท้องเป็นวิธีการดั้งเดิมที่ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดใหญ่ที่บริเวณหน้าท้องเพื่อเข้าถึงมดลูกและทำการผ่าตัดเนื้องอก โดยลักษณะของแผลจะขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนเนื้องอกและความซับซ้อนของการผ่าตัด
ลักษณะของแผลผ่าตัด
- แผลแนวบิกินี่ (Pfannenstiel Incision): เป็นแผลแนวนอนที่อยู่เหนือหัวหน่าว ซึ่งพบได้บ่อยในการผ่าตัดเนื้องอกที่ไม่ใหญ่มาก
- แผลแนวตั้ง: ในกรณีที่ก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่มากหรือซับซ้อน ศัลยแพทย์อาจต้องทำแผลแนวตั้งที่ยาวขึ้น โดยบางครั้งแผลอาจยาวผ่านสะดือขึ้นไป
ข้อดีของการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง
- สามารถมองเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจนและควบคุมการผ่าตัดได้ดี
- เหมาะสำหรับกรณีที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่มากหรือมีความซับซ้อน
- ในบางกรณี เช่น การรักษามะเร็งนรีเวช ศัลยแพทย์อาจเลือกวิธีนี้เพื่อป้องกันการกระจายของเซลล์มะเร็ง
ข้อเสียของการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง
- แผลผ่าตัดใหญ่: ทำให้เกิดแผลเป็นชัดเจน และอาจมีผลต่อความสวยงามของหน้าท้อง
- ระยะเวลาพักฟื้นนาน: ผู้ป่วยมักต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 3-5 วัน และต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการฟื้นตัว
- เจ็บปวดหลังผ่าตัด: เนื่องจากมีการเปิดแผลขนาดใหญ่ ทำให้ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดมีมากกว่า
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน
3. การผ่าตัดผ่านกล้อง
การผ่าตัดผ่านกล้องเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยลดขนาดของแผลผ่าตัด โดยศัลยแพทย์จะทำการเจาะรูขนาดเล็กที่หน้าท้อง (ประมาณ 0.5-1 ซม.) เพื่อนำกล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปทำการผ่าตัดภายใน ซึ่งแผลจะมีขนาดเล็กและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ลักษณะของแผลผ่าตัดผ่านกล้อง
- แผลที่สะดือ: มีขนาดประมาณ 1 ซม. ใช้สำหรับใส่กล้องส่อง
- แผลด้านข้าง: ขนาดเล็กประมาณ 0.5 ซม. สำหรับใส่เครื่องมือผ่าตัด ซึ่งจำนวนและตำแหน่งของแผลขึ้นอยู่กับเทคนิคของศัลยแพทย์
ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้อง
- แผลเล็ก: ทำให้เกิดแผลเป็นน้อย และมีผลกระทบต่อความสวยงามน้อยกว่า
- ฟื้นตัวเร็ว: ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เร็วกว่า โดยปกติจะพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วันเท่านั้น
- เจ็บปวดน้อยกว่า: เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก จึงลดความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดได้มาก
- เสียเลือดน้อยกว่า: จากการศึกษาพบว่าการผ่าตัดผ่านกล้องทำให้เสียเลือดน้อยกว่าการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง
- เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคอ้วน: ในผู้ป่วยที่มีผนังหน้าท้องหนา การผ่าตัดผ่านกล้องช่วยลดความยุ่งยากในการผ่าตัด
ข้อเสียของการผ่าตัดผ่านกล้อง
- ไม่เหมาะกับทุกกรณี: เช่น เนื้องอกที่มีขนาดใหญ่มาก หรือในกรณีที่เป็นมะเร็งที่เสี่ยงต่อการแตกกระจาย
- ต้องใช้ทักษะสูง: ศัลยแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและผ่านการฝึกฝนเทคนิคผ่าตัดผ่านกล้อง
- ใช้เวลาในการผ่าตัดนานขึ้นในบางกรณี: โดยเฉพาะหากมีความซับซ้อนในการผ่าตัด
4. การเลือกวิธีผ่าตัดที่เหมาะสม
การเลือกวิธีผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่:
- ขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก
- สภาพร่างกายและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
- ความชำนาญของศัลยแพทย์
- ความต้องการและความกังวลของผู้ป่วย เช่น เรื่องของความสวยงามของแผล
ในต่างประเทศปัจจุบันแนะนำให้ทำการผ่าตัดผ่านกล้องเป็นหลัก เนื่องจากมีข้อดีหลายประการดังที่กล่าวไป อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อบ่งชี้บางกรณีที่เหมาะสมกับการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง เช่น เนื้องอกขนาดใหญ่มาก หรือการผ่าตัดมะเร็งที่ต้องการควบคุมไม่ให้เซลล์กระจาย
5. ข้อมูลการศึกษาวิจัย
จากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า 95% ของการผ่าตัดทางนรีเวชในยุโรปทำโดยการผ่าตัดผ่านกล้อง ในขณะที่การผ่าตัดเปิดหน้าท้องมีเพียง 5% เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยอมรับและประสิทธิภาพของการผ่าตัดผ่านกล้องในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยการผ่าตัดผ่านกล้องยังคงต้องได้รับการผลักดันเพื่อให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
6. สรุป
การผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกทั้งแบบเปิดหน้าท้องและแบบผ่านกล้องมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป การผ่าตัดเปิดหน้าท้องเหมาะสำหรับเนื้องอกขนาดใหญ่มากหรือกรณีที่ซับซ้อน ในขณะที่การผ่าตัดผ่านกล้องเหมาะกับผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ต้องการฟื้นตัวเร็ว แผลเล็ก และเจ็บปวดน้อยกว่า ดังนั้น การตัดสินใจเลือกวิธีการผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้วิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
7. ข้อคิดทิ้งท้าย
การผ่าตัดเป็นการรักษาที่ต้องใช้ความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างแพทย์และผู้ป่วย การให้ข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่การดูแลตัวเองและการเลือกรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
****************************
ความเชี่ยวชาญอื่นๆของ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์
ให้คำปรึกษา และรักษา
- ฉีดสีประเมินท่อนำไข่(HSG)
- ตรวจน้ำเชื้อ(Semen analysis)
- เจาะฮอร์โมนสตรี เช่น AMH, FSH, LH, E2, P4
- ประเมินเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ด้วย MRI
- ปรับพฤติกรรม และให้ยาในคนไข้ PCOS ที่มีภาวะอ้วน
- แก้หมัน(เปิดหน้าท้อง,ผ่านกล้อง)
- ฉีดเชื้อ(IUI)
- เด็กหลอดแก้ว(IVF, IVF-ICSI)(ให้คำปรึกษา)
- ผ่าตัดเนื้องอกในโพรงมดลูกผ่านกล้อง
- ผ่าตัดเนืองอกกล้ามเนื้อมดลูกผ่ากล้อง
- ผ่าตัดเลาะพังผืดผ่านกล้อง
- ผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่ด้วย CO2 laser
- ให้คำปรึกษาการรักษาเนื้องอกมดลูกด้วย HIFU, Microwave, RF